DizFocus:
ซิฟิลิสกระต่าย, โรคเพศกระต่าย, Vent disease, Rabbit syphilis
พอดีผมออกไปเก็บข้อมูลกระต่ายมาช่วงนึง แล้วสอบถามฟาร์มว่ามีปัญหาอะไรบ้าง ก็พูดถึงซิฟิลิสกระต่ายเนี่ยแหล่ะครับ ก็เลยอยากเขียนทิ้งไว้
เชื้อสาเหตุ : Treponema
cuniculi (Spirocheate) = ทรีโพนีม่า คูนิคูไล
การติดต่อ : การผสมพันธุ์,
จากแม่สู่ลูก (ลูกติดตอนผ่านช่องคลอด หรือตอนดูดนม)
รอยโรค : สะเก็ดแผล
สีแดงมากขึ้น บวม มีตุ่มน้ำขนาด 1-2 มิลลิเมตร
และเจ็บไม่ยอมผสม ที่รอยต่อของเยื่อเมือกกับผิวหนัง มักพบบ่อยตรงอวัยวะเพศ
รวมทั้งสามารถลามไปถึง ริมฝีปาก จมูก หนังตา ซึ่งพบในกระต่ายก่อนอย่านมมากกว่ากระต่ายโต
ระยะฟักตัว : นาน
(10-16 สัปดาห์), บางทีไม่แสดงอาการ
วิธีตรวจยืนยัน : รอยโรคที่พบเห็น, ย้อมสีพิเศษด้วย Silver stain
ยา : Benzathine
penicillin (ออกฤทธิ์นาน) = เบนซาทีน
เพนนิซิลิน
ขนาดยา : 20-25 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หรือ 40,000 IU (procain
penicillin ห้ามให้แม่กระต่ายเลี้ยงลูก เนื่องจากทำให้ลูกตาย)
วิธีให้ : ฉีดเข้ากล้าม
3 ครั้งห่างครั้งละ 1 สัปดาห์ (ห้ามให้ทางการกิน) (ถ้ากระต่ายท้องเสีย
หรือ ลดการกินอาหารให้หยุดยาทันที)
การหายของโรค : รอยโรคเริ่มลดลงหลังจากให้ยาครั้งแรกประมาณ
5 วัน และหายหมดประมาณ 2 สัปดาห์
ข้อแนะนำ :
1. เมื่อพบกระต่ายมีรอยโรคห้ามผสมพันธุ์เนื่องจากโรคติดต่อจากการผสมพันธุ์
และแยกกระต่ายดังกล่าวออกจากฝูง รวมทั้งรักษากระต่ายตัวอื่นที่สัมผัส
และแยกเหมือนกับกระต่ายป่วย
2. ถ้ารอยโรคไม่หายภายในเวลา
3 สัปดาห์ให้ติดต่อสัตวแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป
3. เชื้อดังกล่าวไม่ติดคน
4. กระต่ายที่รักษาหายสามารถใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ต่อได้
แต่ต้องไม่มีสะเก็ดแผล หรือรอยโรคที่อวัยวะเพศ
5. ระวัง! กระต่ายที่มีเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ
โดยสามารถสังเกตจากอัตราการผสมติดที่ต่ำลง หรือ รอยโรค
6. ระวัง! การติดต่อจากการจับกระต่ายมีเชื้อไปสู่กระต่ายตัวอื่น ให้ล้างมือให้สะอาดก่อนถึงทำงานต่อไปได้
การป้องกัน : พ่อแม่พันธุ์ที่นำเข้ามาใหม่ให้แยกเลี้ยงประมาณ
3 เดือนถ้าไม่มีรอยโรคถึงนำมาผสมได้ หรือ
เลือกพ่อแม่จากฟาร์มที่ปลอดโรคดังกล่าว
รูปที่ 1 แสดงตุ่ม และสะเก็ดที่อวัยวะเพศเมีย รูปที่ 2 แสดงสะเก็ดที่ขึ้นที่จมูกกระต่าย |
_________________________________________________________________________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น