หัวข้อ

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

Talk:Zoonosis1



Talk: โรคกระต่ายสู่คน1 (Rabbit zoonosis) ตอนที่ 1



                     
                     โรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน (Zoonotic diseases) หมายถึง โรคติดเชื้อร่วมระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ป่า ซึ่งพบว่าโรคในมนุษย์เกือบร้อยละ 80 เป็นโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน ผมว่าคำอธิบายง่ายๆสำหรับคำนี้เราคงคิดถึง ไข้หวัดนก เนี่ยแหล่ะครับคือความน่ากลัวของสัตว์ที่อยู่ใกล้ชิดเรา ในความคิดของผม ผมคิดว่าข้อนี้คือข้อแรกที่ต้องรู้ก่อนการเลี้ยง หรือการทำงานร่วมกับสัตว์ทุกชนิด เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก หรือคนใกล้ตัวซึ่งเกิดจากความไม่รู้ของเราคงเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นเป็นแน่ ผมจะสรุปแบบพอสังเขปในแต่ละโรคนะครับ ถ้ามีโอกาสผลจะกล่าวในรายละเอียดของแต่ละโรคใน DizFocus แล้วกันครับ
                ถ้าร่างกายของเราแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันที่ดี จะไม่ค่อยติดโรคจากกระต่าย แต่ในคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือใช้ยากดภูมิคุ้มกันต้องระวังเป็นอย่างมาก โดยโรคจากกระต่ายสู่คนเท่าที่ค้นหามามีดังนี้
                1. Cheyletiella (ไรขนกระต่าย) อาการคือ จะเป็นผื่นแดงคัน โดยไรตัวนี้จะอยู่บนตัวกระต่าย และแอบอยู่ตามที่รองนอนได้ วิธีการตรวจทำโดยดึงขนมาแปะบนน้ำมัน เราจะเจอไรที่มีหน้าตาดังรูปที่ 1 โดยกระต่ายจะเกาบริเวณที่คันและพบผงสีขาวเมื่อเราแหวกขนกระต่ายดู (รูปที่ 2) การแก้ไขเริ่มจากฉีดยา ivermectin 200-400 µg/kg sc ให้กระต่ายและสัตว์เลี้ยง ชนิดอื่นที่มีอยู่ รวมทั้งทำความสะอาดที่รองนอน


2. Fleas (หมัด) ส่วนมากระต่ายจะติดมาจากสัตว์ชนิดอื่นที่ใกล้ชิดกัน โดยอาการทั้งในคนและสัตว์จะมีผื่นคัน ส่วนมากจากเป็นหมัดแมว (Ctenocephalides felis) โดบหมัดส่วนมากจะพบที่ขอบหู (โทษทีผมหารูปไม่เจอ คงหายไปกับคอมที่เคยหายแหล่ะมั้ง T-T หายากนะเนี่ย) แต่ก็สามารถพบในร่างกายได้เช่นกัน วิธีการตรวจก็คือจากอึหมัด ใช้หวีสางเหาหรืออะไรที่มันละเอียด แล้วเคาะบนกระดาษสีขาวที่เปียกน้ำ จะพบเป็นสีแดงเนื่องจากหมัดจะกินเลือด หรือเราจะพบอึสีดำๆเมื่อเราแหวกขน (รูปที่ 3) วิธีการป้องกันรักษาไม่สองกรณี กรณีแรกคือเราเลี้ยงแต่กระต่ายไม่มีสัตว์อื่น เราก็ไม่ให้กระต่ายไปพบสัตว์ชนิดอื่น แต่ถ้าเรามีสัตว์อื่นก็ต้องใช้ยาในสัตว์ทุกตัวซึ่งสามารถเลือกใช้ตัวยา Selamectin ได้ครับ 

3. Psoroptes cuniculi (ไรหู) พบยากมากครับที่ไรดังกล่าวจะมาทำลายมนุษย์ สังเกตง่ายมากดูด้านในใบหูของกระต่ายเห็นเป็นแผ่นๆ (รูปที่5) ถ้าดึงออกมาก็เจอตัวมันออกมาวิ่งอย่างมากมาย รักษาก็ ivermectin 200-400 µg/kg sc ให้สามครั้งห่างครั้งละ 2 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามเราต้องทำความสะอาดสถานที่เลี้ยงให้สะอาดด้วย



4. Trichophyton mentagrophytes หรือ Microsporum canis (เชื้อรา) อาการไม่ต้องอธิบายมากเป็นผื่นแดงคัน ในกระต่ายมันพบที่ปลายนิ้ว ปลายจมูก ใบหู และขอบตา (รูปที่ 7-8) สามารถใช้ Itraconazole 10mg/kg PO วันละครั้งนาน 15 วันในการรักษา สำหรับในฟาร์มจะเป็นจุดบอกได้ว่าขณะนี้ร่างกายกระต่ายอ่อนแอ และความไม่สะอาดของโรงเรือน 



 _____________________________________________________________________________________________
ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้รวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออย่างไรก็ตามทีมงานไม่สามารถที่รับรองความถูกต้องของข้อมูลเหล่านี้ได้ บทความในเอกสารนี้จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงจากหลักวิชาการ และมิได้เป็นการชี้นำ การตัดสินใจใดๆของผู้อ่าน ไม่ว่าเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นวิจารณญาณของผู้อ่าน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือพันธะผูกพันใดกับทีมงานไม่ว่ากรณีใด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น